5 โปรแกรม Text Editor ฟรี  ที่จะช่วยให้การเขียน Code เป็นเรื่องง่าย

Chanakan Budrak/ June 20, 2019/ Application/ 0 comments

5 โปรแกรม Text Editor ฟรี  ที่จะช่วยให้การเขียน Code เป็นเรื่องง่าย

Text Editor หรือ IDE เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับนักพัฒนา ด้วยฟีเจอร์ช่วยวิเคราะห์โค้ดที่เขียนผิด, ตัวช่วยในการค้นหาข้อมูล หรือการอ้างอิงโค้ดพร้อมฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้การโค้ดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทั้งยังรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น น่าสนใจกันใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำ 5 โปรแกรม Text Editor ฟรี ที่จะช่วยให้การเขียน Code เป็นเรื่องง่ายมาฝากกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วลองไปดูกันเลย


1.Visual Studio Code

Text Editor

ราคา : ฟรี

ความเสถียร : สูง

ความเร็ว : ปานกลาง

UI/UX : ดี

ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง : ปานกลาง

จุดเด่น

–       เหมาะกับโปรเจกต์ ขนาดใหญ่และซับซ้อน

–       มีโหมด Live Share

–       มี plugins เจ๋ง ๆ ที่พัฒนาโดย Microsoft

–       มีฟีเจอร์ Built-in Git

Link : https://code.visualstudio.com

โปรแกรม Text Editor ยอดนิยมที่พัฒนาขึ้นจากโปรเจกต์ Open-source โดย Microsoft ที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันดี Visual Studio Code นั้นนำเสนอฟีเจอร์หลัก ๆ อย่าง editing และ debugging tools รวมไปถึงฟีเจอร์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเซอร์วิสอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

Visual Studio Code ยังมีโหมด Live Share  ที่คุณสามารถเขียนโค้ดแบบเรียลไทม์ร่วมกับทีมของคุณได้ โดยที่คุณไม่ต้องตั้งค่าต่าง ๆ ให้วุ่นวาย พร้อมฟีเจอร์ Git Integration ที่ช่วยให้คุณทำงานได้รวดเร็วขึ้น มีฟีเจอร์ Intellisense และ syntax highlight ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อในการเขียนโปรแกรม รวมไปถึงฟีเจอร์น่าสนใจอีกมากมายให้ได้ใช้กัน เท่านั้นยังไม่พอ Visual Studio Code ยังมี plugins เจ๋ง ๆ ที่พัฒนาโดย Microsoft ให้ใช้อีกด้วยนะคะ


2.Atom

Text Editor

ราคา : ฟรี

ความเสถียร : ปานกลาง

ความเร็ว : ปานกลาง

UI/UX : ดี

ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง : สูง

จุดเด่น

–       มีฟีเจอร์ Built-in Git และ GitHub

–       ฟีเจอร์ Teletype สำหรับการโค้ดพร้อมกันได้หลายคนในเวลาเดียวกัน

–       มีฟีเจอร์เสริมอย่าง Atom-IDE

Link :https://atom.io

อีกหนึ่งโปรเจกต์ open source ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย GitHub โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Atom ก็จะมีฟีเจอร์พื้นฐานอย่าง syntax highlight, ตัวช่วยเขียนโค้ด และ code folding ซึ่งจุดเด่นของ Atom  คือมีฟีเจอร์ Built-in Git และ GitHub ที่คุณสามารถดึง source code จาก Git และ GitHub ได้เลยโดยไม่ต้อง command line เอง

อีกหนึ่งจุดเด่นคือฟีเจอร์ Teletype สำหรับการโค้ดพร้อมกันได้หลายคนในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมอย่าง Atom-IDE อีกหนึ่งแพ็กเกจเสริมของอะตอม ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง GitHub กับ Facebook เพื่อให้อะตอมนั้นเป็นเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเต็มรูปแบบ โดยในแพ็กเกจนั้นประกอบไปด้วย ตัวช่วยในการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและคำเตือนต่าง ๆ รวมถึงการวิเคราะห์โค้ดที่เขียนผิด, ตัวช่วยค้นหาข้อมูล การอ้างอิงทั้งหมดพร้อมฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งยังรองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษามากยิ่งขึ้น


3.Sublime Text 3

Text Editor

ราคา : มีทั้งแบบใช้ฟรี และเสียเงิน ($80)

ความเสถียร : สูง

ความเร็ว : สูง

UI/UX : ปานกลาง

ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง : สูง

จุดเด่น

–       ไม่หนักเครื่อง และรวดเร็ว

–       มี plugin หลากหลายให้เลือก สามารถกำหนดและปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ

Link : http://www.sublimetext.com/

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรม Text Editor โหลดเร็ว โหลดไว ชนิดที่ว่าพอเปิดปุ๊ปรอโหลดไฟล์แค่ไม่กี่วินาทีก็สามารถเข้าไปแก้ไขหรือเขียนโค้ดได้เลย Text Editor ตัวนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ เพราะ Sublime Text นั้นถูกออกแบบมาให้มีลักษณะไฟล์ที่เล็ก ทำให้โหลดไวไม่หนักเครื่อง รวมไปถึงมีความเสถียรในการใช้งาน และตอบสนองได้ไวไม่แพ้  Text Editor ตัวอื่น ๆ

ฟีเจอร์เบสิกหลักของ Sublime Text ก็จะมี ตัวช่วยในการเติมคำ, syntax highlight และ code folding นอกจากนี้อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Sublime Text ที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือคุณสามารถติดตั้ง plugin เพิ่มเติมได้โดยมีให้คุณเลือกใช้งานได้หลากหลาย ทั้งยังสามารถกำหนดรูปแบบของหน้าจอแสดงผลและเครื่องมือต่าง ๆ ได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็น Theme,  Package Control, เครื่องมือต่าง ๆ ที่คุณสามารถตั้งค่าและจัดการได้เองอย่างง่ายได้ และไม่ซับซ้อนค่ะ


4.Brackets

Text Editor

ราคา : ฟรี

ความเสถียร : ปานกลาง

ความเร็ว : ปานกลาง

UI/UX : ดี

ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง : ปานกลาง

จุดเด่น

–       ออกแบบมาเพื่อ web designer และ front-end developer

–       มีเครื่องมือ และฟีเจอร์เฉพาะอื่น ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับ web designer และ front-end developer

–       มีฟีเจอร์ Live Preview เพื่อดู Preview บน Chrome ได้แบบเรียลไทม์

–       รองรับได้ดีในส่วนของภาษา JavaScript, HTML, และ CSS

Link : http://brackets.io/

โปรเจกต์ open source ที่พัฒนาโดย Adobe ภายใต้ MIT license ที่ออกแบบมาเพื่อ web designer และ front-end developer โดยรองรับได้ดีในส่วนของภาษา JavaScript, HTML, และ CSS ซึ่งมีฟีเจอร์พื้นฐานหลัก ๆ อย่าง ตัวช่วยในการเติมคำ, syntax highlight และ การวิเคราะห์โค้ดที่เขียนผิด เป็นต้น

จุดเด่นของ Brackets คือฟีเจอร์ Live Preview ที่คุณสามารถเปิดไฟล์เพื่อดู Preview บน Chrome ได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ และฟีเจอร์เฉพาะอื่น ๆ สำหรับ web designer และ front-end developerโดยเฉพาะอีกด้วย


5.Vim

Text Editor

ราคา : ฟรี

ความเสถียร : สูง

ความเร็ว : สูง

UI/UX : แย่

ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง : สูง

จุดเด่น

–       สามารถปรับแต่งและขยายตัวได้มาก

–       มี Plugin เยอะมาก ครอบคลุมทุกแบบ (หรืออาจจะมากกว่า) ที่ Visual Studio Code, Atom, Sublime มี

–       มี shortcut เยอะแยะมากมายจนไม่ต้องใช้เมาส์

–       ไม่ต้องโหลดเพราะมีติดมากับเครื่อง

Link : https://www.vim.org/

        ถึงแม้รูปลักษณ์ของ Vim จะดูเก่าแต่ถึงยังนั้นก็ยังคงความเก๋าเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ครบเครื่อง สำหรับมือใหม่ในการเขียนโปรแกรม หรือคนที่ไม่เคยทำงานกับพวก Unix มาเลยจะไม่เข้าใจและต้องเรียนรู้สักหน่อย  เพราะมันคือ Editor แบบ Commend Line บน OS ตระกูล Unix ทั่งหลาย ที่แถมมากับเครื่อง ทำให้ไม่ต้องโหลดให้เสียเวลา แถมยังแทบไม่ต้องใช้เมาส์ เพราะมี shortcut มากมายทำให้คุณสามารถโค้ดคำสั่งต่าง ๆ ผ่านคีย์บอร์ดได้เลย แต่ด้วยความที่เราไม่ต้องใช้เมาส์คลิกไปคลิกมานี่แหละที่ทำให้คุณสามารถโค้ดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Plugin ต่างๆแบบที่ Visual Studio Code, Atom, Sublime มี ไม่ว่าจะ autocomplete, syntax checking, git ต่างๆ จนใช้กันแทบไม่ไหวกันเลยทีเดียวค่ะ


ที่มา:

https://www.creativebloq.com/advice/best-code-editors

https://designrevision.com/best-code-editor/#7-notepad++

จบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

มีความชื่นชอบและติดข่าวสารวงการเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยความที่เทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก จึงมีความเชื่อว่าแม้จะเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีได้

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>
*
*