เจาะลึกเบื้องหลัง Canva! ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง? ถึงได้ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม
Canva คืออะไร?
โปรแกรม “Canva – แคนวา” เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการออกแบบงานต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Presentation, Resume, Report, Poster, Banner, แผ่นพับ, การ์ด, และนามบัตร เป็นต้น รวมถึงภาพเคลื่อนไหวสำหรับนำไปลงในสื่อ Social Media ต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถใช้งานผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ในหลากหลายอุปกรณ์ รวมถึงยังสามารถเชิญบุคคลอื่นให้เข้ามาทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย
จุดเริ่มต้นของแคนวามาจากความคิดของ Melanie Perkins ในวัย 19 ปี ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเธอทำงานพิเศษ สอนใช้โปรแกรมออกแบบกราฟิก และเห็นว่านักเรียนของเธอส่วนมาก มักประสบปัญหาการใช้โปรแกรมที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน เธอจึงมีความคิดที่อยากจะสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การออกแบบกราฟิกเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
Melanie จึงได้ชักชวน Cliff Obrecht แฟนหนุ่ม และ Cameron Adams อดีตวิศวกรของ Google มาร่วมกันก่อตั้งแคนวาขึ้นในปี 2012 โดยได้เปิดตัวในฐานะเครื่องมือออนไลน์สำหรับการสร้างและแบ่งปันกราฟิก ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 600,000 รายภายในปีนั้น หลังจากนั้นแคนวาได้มีการพัฒนาและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ รวมถึงขยายฟีเจอร์ต่างๆ ในการออกแบบอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มในการออกแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก
4 ฟังก์ชันหลักของ Canva
- Template : ตัวอย่างผลงานที่สร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้สร้างงานออกแบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถปรับแต่งจาก Template ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Presentation, Resume, Report และอื่นๆ อีกมากมาย โดยมี Template ให้เลือกมากกว่า 60,000 ชิ้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถ Customize งานออกแบบจาก Template ของตนเองได้ทุกส่วน เช่น การปรับขนาด, การปรับเปลี่ยนสี, ฟอนต์ หรือนำ Template หลายๆ แบบมารวมกัน เพื่อสร้าง Template ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร
- Photo Tool : เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการรูปภาพ ทั้งการเพิ่มรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมือถือของผู้ใช้งาน การค้นหารูปภาพฟรี รวมถึงการปรับแต่งรูปภาพให้สวยงาม ทั้งการปรับแสง ตัดรูปภาพ หรือใส่แอนิเมชั่น เป็นต้น
- Text Tool : เครื่องมือในการปรับแต่งและจัดรูปแบบของข้อความ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกฟอนต์, การปรับขนาด, การจัดวาง และการเพิ่มเอฟเฟ็กต์หรือสีต่างๆ ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายและตกแต่งข้อความให้เหมาะกับชิ้นงานได้
- Teams : แคนวาสามารถสร้างทีมในการออกแบบชิ้นงานร่วมกันได้แบบ Real Time ที่ผู้ใช้งานต่างสามารถแสดงความคิดเห็น, แท็กสมาชิกในทีม, แก้ไขงาน และให้คำแนะนำได้ทันที
Canva ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง?
ด้วยความสามารถที่มากมายและฟีเจอร์ที่โดดเด่นของแคนวาแน่นอนว่าต้องมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการใช้งานที่ตอบโจทย์ในการออกแบบผลงาน มาดูกันว่าภายในแคนวามีการใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง ถึงได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
- Cloud Computing : แคนวามีการใช้ระบบ Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีหลักที่สำคัญ ที่ใช้ในแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง AI , การจัดเก็บข้อมูลและการสำรองข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลของผู้ใช้ เป็นต้น นอกจากนี้แคนวายังใช้ขีดความสามารถของระบบ Cloud ในการปรับขนาดและจัดการทรัพยากรตามความต้องการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา ที่อาจมีความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแคนวาและทำงานได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องความล่าช้า และระบบ Cloud ยังช่วยให้ผู้ใช้ทำงานร่วมกันได้แบบ Real Time อีกด้วย
- Web Technologies : แคนวามีการใช้เทคโนโลยีเว็บไซต์เชิงสากลอย่าง HTML, CSS, และ JavaScript ในการพัฒนา Interface และฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานแคนวาได้อย่างสะดวกผ่านเว็บเบราว์เซอร์
- Machine Learning : แคนวาได้พัฒนา Machine Learning เพื่อนำมาพัฒนาฟีเจอร์ในหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นระบบแนะนำ Template, การค้นหาข้อมูล, Natural Language หรือการปรับแต่งรูปภาพ เช่น Background Remover ที่เป็นฟีเจอร์ยอดนิยม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบพื้นหลังรูปภาพได้อย่างชาญฉลาด ซึ่ง Machine Learning จะตรวจจับส่วนต่างๆ ในภาพ และลบพื้นหลังอัตโนมัติ หรือผู้ใช้สามารถเลือกวัตถุที่ต้องการให้คงอยู่ในภาพ และให้แคนวาตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Magic Drawing ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพที่มีสไตล์เดียวกับการวาดด้วยมือ โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการวาดภาพที่ดีเยี่ยมมาก่อน ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรายละเอียด เพิ่มลายเส้น หรือเพิ่มสีสันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
- Data Analytics : ในการดำเนินการและพัฒนาแพลตฟอร์มแคนวาใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้ ที่มีการติดตามพฤติกรรมและนำวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
- 3rd Party API Integration : แคนวามีการพัฒนา API ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและบริการอื่นๆ ภายนอก ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแคนวาร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้โดยตรงและสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น Dropbox ที่เป็นแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลยอดนิยม ซึ่งแคนวามีการเชื่อมต่อโดยตรง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำเข้ารูปภาพและไฟล์จาก Dropbox เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบผลงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ระบบ “Cloud” เทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญสำหรับ Canva!
ในการทำงานของแพลตฟอร์มแคนวาที่ส่วนใหญ่มีการใช้ระบบ Cloud Computing ในการทำงานแทบทุกฟีเจอร์และมีบทบาทในกระบวนการทำงานของแพลตฟอร์ม ตั้งแต่การเริ่มออกแบบ การบันทึกงาน ไปจนถึงการแชร์ไฟล์งาน ซึ่งมีการใช้ระบบ Cloud แทบทั้งสิ้น ทำให้การทำงานของผู้ใช้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยฟังก์ชันหลักของแคนวาที่มีการใช้งานระบบ Cloud มีดังนี้
1. AI
เนื่องจากการทำงานของ AI จะต้องมีการพึ่งพาระบบ Cloud เพื่อการพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดในปี 2024 แคนวาได้เปิดตัว Assistant ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ซึ่งเป็นฟีเจอร์การใช้งานที่สามารถเรียนรู้เนื้อหาของชิ้นงาน และสามารถสร้าง จัดเรียง ตัดต่อ สรุป เขียนเนื้อหา หรือทำทุกอย่างแทนผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย เช่น
– Magic Write : เป็นฟังก์ชันที่ AI จะสร้างสรรค์เนื้อหาตามคำสั่งที่เราต้องการ เพียงป้อนคำหรือคีย์เวิร์ดเพื่ออธิบายความต้องการ จากนั้น AI จะวิเคราะห์ ประมวลผล และสร้างเนื้อหาออกมาตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว โดยสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างเนื้อหาประเภทไหน ไม่ว่าจะเป็น บทความ Blog แผนธุรกิจ โพสต์บน Social Media หรือแม้กระทั่งบทกลอน อีกทั้งยังเลือกระดับภาษาของเนื้อหางานได้อีกด้วย
– Magic Edit : เป็นฟังก์ชันที่สามารถช่วยเปลี่ยนสิ่งของในรูปภาพให้เป็นสิ่งที่ต้องการ เพียงแค่เลือกรูปภาพและนำแปรงมาระบายวัตถุที่ไม่ต้องการ พร้อมทั้งกำหนดว่าต้องการให้ AI นำวัตถุอะไรมาใส่แทนส่วนที่ลบออกไป จากนั้น AI จะทำการประมวลผลและสร้างสรรค์ออกมาตามคำสั่งในเวลาเพียงไม่กี่นาที
– Magic Presentation : เป็นฟังก์ชันที่สามารถพิมพ์ไอเดีย หรือรูปแบบที่ต้องการทำ Presentation ด้วยคำสั้นๆ เพื่อให้ Magic Presentation ร่างรูปแบบที่ตรงกับคำสั่งที่ได้พิมพ์ลงไป หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือตกแต่ง Presentation ได้ตามความต้องการ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสร้างงานนำเสนอที่มีความสวยงามและเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นการช่วยผู้ใช้ในการลดระยะเวลาในการทำ Presentation ที่ไม่ต้องใช้เวลาในการออกแบบด้วยตนเองอีกต่อไป
– Translate Designs : สำหรับงานออกแบบที่มีหลากหลายภาษา สามารถคลิกเปลี่ยนภาษาในแคนวาได้ทันที ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 100 ภาษา โดยสามารถทำได้สูงสุด 20 หน้าต่อเดือน และสำหรับแคนวาแบบโปรสามารถแปลภาษาได้สูงสุด 500 หน้าต่อเดือน
– AI Background Remover : เครื่องมือลบพื้นหลังอัตโนมัติ ที่สามารถใช้ได้กับภาพหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่คน สัตว์ ไปจนถึงวัตถุ และสำหรับแคนวาแบบโปรยังสามารถลบพื้นหลังในไฟล์ Video ได้อีกด้วย
– AI Text to Image : เป็นฟังก์ชัน AI ที่ช่วยออกแบบและสร้างสรรค์รูปภาพตามคำสั่งที่ผู้ใช้งานสร้างเพียงป้อนคำสั่งลงไป ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งค้นหาในอินเทอร์เน็ต รวมถึงยังสามารถปรับ Mood & Tone ของภาพและปรับขนาดได้ตามสัดส่วนที่ต้องการ ซึ่งตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานที่ต้องการสร้างผลงานศิลปะหรือกำลังค้นหารูปที่หาค่อนข้างยาก ตัวอย่างเช่น หากต้องการรูปภาพหมีแพนด้าขี่จักรยานผ่านเมืองที่มีพื้นหลังเบลอ ก็สามารถพิมพ์คำสั่งนี้ลงไป จากนั้น AI ก็จะทำการสร้างสรรค์รูปภาพตามคำสั่งนั้นออกมาให้เลือกมากมาย
– Beat Sync : เป็นฟังก์ชันในการ Sync วิดีโอ เพื่อปรับภาพและเสียงให้ตรงกันโดยอัตโนมัติ หรือปรับแต่งช่วงที่เป็นไฮไลท์เพื่อดึงดูดผู้ชม โดยการอัปโหลดเพลงที่ต้องการใช้ จากนั้นระบบจะช่วยจัดแนวฟุตเทจให้เข้ากับจังหวะของซาวด์แทร็กอย่างสมบูรณ์ ทำให้ได้วีดิโอที่พร้อมใช้งานในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที
2. การจัดเก็บข้อมูล
แพลตฟอร์มแคนวาได้ใช้ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูล โดยมีลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การจัดเก็บฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เก็บไฟล์ภาพ วิดีโอ และเอกสารต่างๆ รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ โดยมีการจัดการความปลอดภัย การสำรองข้อมูล และการควบคุมการเข้าถึง เพื่อให้ข้อมูลของผู้ใช้งานมีความปลอดภัย โดยการจัดเก็บข้อมูลการใช้งานเป็นการใช้ระบบ Cloud เพื่อเก็บข้อมูลแบบลำดับเวลา ซึ่งเป็นฐานข้อมูล NoSQL ที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
นอกจากนี้แคนวายังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้กับผู้ใช้ทุกราย เพื่อเก็บไฟล์ชิ้นงาน หรือไฟล์รูปภาพและไฟล์วิดีโอที่ถูกอัปโหลดขึ้นแคนวาเพื่อสร้างชิ้นงาน โดยมีการแบ่งขนาดจัดเก็บตามรูปแบบบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด 3 รูปแบบ
- บัญชีแบบฟรี สามารถอัปโหลดสื่อได้สูงสุด 5GB
- บัญชีเพื่อการศึกษาและเพื่อองค์กรไม่แสวงหากำไร สามารถจัดเก็บสื่อได้สูงสุด 100GB
- บัญชีแบบโปรและสำหรับทีม จะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB
3. การทำงานร่วมกัน
แคนวา มีการใช้ระบบ Cloud เพื่อการทำงานร่วมกันในไฟล์เดียว โดยใช้ระบบเก็บข้อมูลแบบ File Storage ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์และทำงานร่วมกันในไฟล์เดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การแชร์ลิงก์ : สามารถสร้างลิงก์ของชิ้นงาน และสามารถส่งต่อลิงก์ให้กับบุคคลอื่น เพื่อให้สามารถเข้าถึงและแก้ไขไฟล์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบแคนวาหรือมีบัญชีแคนวา
- การกำหนดสิทธิ์ในการแก้ไข : สามารถกำหนดสิทธิ์ในการแก้ไขไฟล์ให้กับผู้ใช้อื่นได้ ว่าจะให้บุคคลนั้นสามารถดูได้อย่างเดียว สามารถแสดงความคิดเห็น หรือสามารถแก้ไขงานได้
- การเข้าถึงแบบ Real-time Collaboration : อีกหนึ่งฟีเจอร์หลักที่สำคัญของแคนวา ที่ใช้ระบบ Cloud เพื่อการทำงานในเวลาเดียวกัน โดยใช้โครงสร้างที่เรียกว่า Operational Transformation (OT) หรือ Transform วิธีการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันในไฟล์เดียวกันได้ทันที และเมื่อผู้ใช้ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในไฟล์ การดำเนินการจะถูกส่งผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแคนวา ที่ถูกโฮสต์บน Cloud จากนั้นเซิร์ฟเวอร์จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงไปยังผู้ใช้คนอื่นๆ ที่กำลังเข้าถึงไฟล์เดียวกัน ทำให้ผู้ใช้ทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
- การบันทึกอัตโนมัติ : แคนวามีการบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของชิ้นงานอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการบันทึกไฟล์ โดยแคนวาจะทำการบันทึกไฟล์ลงในพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Cloud อัตโนมัติ ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงชิ้นงานของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาในเวอร์ชันล่าสุด โดยไม่มีความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูล
4. การเข้าถึงบนเว็บไซต์
แคนวายังคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้ โดยใช้ Cloud ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าใช้งาน ทั้งในรูปแบบแอปพลิเคชันที่เข้าใช้งานได้อย่างสะดวกบน Smart Phone ทุกระบบปฏิบัติการ และยังให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ผ่าน Web Browser บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถแก้ไขงานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ ทำให้สามารถทำงานร่วมกับทีม แก้ไขงาน หรือสร้างผลงานได้ทุกที่ทุกเวลา
5. การ Save และการ Backup ข้อมูล
แคนวา ใช้บริการ Cloud เพื่อการบันทึกและการสำรองข้อมูล (Backup) ของผู้ใช้ โดยมีการใช้งานแบบ Multi-Region Replication และ Data Encryption เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ทำให้แคนวาสามารถบันทึกข้อมูลและสำรองข้อมูลของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้การเข้ารหัสข้อมูล เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ข้อมูลที่บันทึกและสำรองใน Cloud มีความปลอดภัยในระดับสูง
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การใช้ระบบ Cloud ทำให้แคนวาเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน ทั้งในด้านการใช้งานที่มีความสะดวกและใช้งานง่ายได้ง่าย มีความปลอดภัย และช่วยจัดการการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องส่งไฟล์ไปมาหรือใช้เครื่องมือในการสื่อสารเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
หากสนใจใช้บริการ Cloud เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบหรือแอปพลิเคชันของท่าน สามารถติดต่อขอทดสอบได้ที่ contact@ols.co.th หรือสมัครใช้งาน Cloud ในรูปแบบ Self-Service ได้ที่ https://gate.openlandscape.cloud
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.canva.dev/docs/apps/
https://contentshifu.com/blog/
https://startuptalky.com/melanie-perkins-success-story/
https://mirrorthailand.com/movinon/thoughts/101446
https://talkatalka.com/blog/
https://www.tinybird.co/case-studies/
เครดิตรูปภาพ
https://www.canva.com