Magento คือ อะไร ? Content Management System สำหรับ E-Commerce ยอดนิยม !

Thanatcha Veeravattanayothin/ February 17, 2023/ Knowledge Base/ 0 comments

Magento คือ อะไร ?

Magento คือ ซอฟต์แวร์ Open Source จัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ หรือที่หลายคนเรียกว่า CMS (Content Management System) ซึ่งสามารถเพิ่ม Module และ Plug-in ใหม่ ๆ ที่เป็นส่วนเสริมในการช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงได้ตามต้องการ และที่สำคัญสามารถใช้งานได้ฟรี ! 

โปรแกรม Magento ถูกพัฒนาโดยภาษา PHP และถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการจัดทำเว็บไซต์สำหรับ E-Commerce โดยเฉพาะ และยังมีการใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database) MySQL หรือ MariaDB ซึ่งเว็บไซต์หรือ E-Commerce ที่ใช้ Magento มีจุดเด่นที่สามารถปรับแต่งให้เว็บไซต์ของตนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เนื่องจาก Magento มีความยืดหยุ่นสูง ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้รูปแบบที่ทันสมัยและมีความหลากหลาย ในการออกแบบเว็บไซต์ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ Magento ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการพัฒนาเว็บไซต์ E-Commerce เพราะมีความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย และมีความเป็นมืออาชีพ สามารถพัฒนาต่อยอดให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพสำหรับการทำธุรกิจ 

เวอร์ชัน Beta ของ Magento เปิดตัวครั้งแรก ในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดย Varien บริษัทเอกชนของสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังคือบริษัท Magento ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 บริษัท Magento ถูกซื้อโดยบริษัท eBay ผู้นำการขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก และในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ถูกขายให้ Permira บริษัทด้านการลงทุนระดับโลก และท้ายที่สุดถูกขายให้กับ Adobe บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561 

โปรแกรม Magento ได้รับการพัฒนาบน Zend Framework ซึ่งเป็นส่วนขยายของ PHP ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ OOP (Object Oriented Programming) ที่เน้นการพัฒนาให้มีความปลอดภัย ความรวดเร็ว ความเสถียร และง่ายต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบ Web 2.0 และ Web Service 

นอกจากนี้ยังมี APIs (Application Programming Interface) จากบริษัทชั้นนำอย่าง Google Amazon Yahoo และ Flickr เป็นต้น รวมถึง APIs สำหรับระบบ Catalog สินค้า เช่น StrikeIron และ ProgrammableWeb เป็นต้น เพื่อเชื่อมต่อให้ระบบภายนอกสามารถเข้าถึงและอัปเดตข้อมูลได้ตามที่กำหนดไว้ โดย APIs เป็นตัวช่วยรับคำสั่งต่าง ๆ ในการประมวลผลข้อมูล ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดข้อผิดพลาดได้มากขึ้น


Magento มีกี่ประเภท ?

ประเภทการใช้งานของ Magento ถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

  • Magento Community หรือแบบ Open Source สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถ Download โปรแกรมเพื่อติดตั้งและใช้งานบนคอมพิวเตอร์ หรือติดตั้งเพื่อใช้งานบน Cloud ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและพัฒนาได้มากกว่ารูปแบบอื่น ๆ 
  • Magento Enterprise รูปแบบการใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่าย จะได้รับการดูแลจาก Technical Support รวมถึงการรักษาความปลอดภัย และคุณสมบัติการใช้งานที่มากขึ้น เช่น ระบบสะสมคะแนน, การลงทะเบียนรับของขวัญหรือบัตรของขวัญ และระบบเชิญเพื่อน เป็นต้น

ภาพประกอบ 1 Magento คือ

10 คุณสมบัติน่าใช้ของ Magento มีอะไรบ้าง ?

1. หน้าแสดงสินค้าแบบมืออาชีพ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เช่น แสดงรูปภาพสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และลูกค้าสามารถแสดงความคิดเห็นหรือรีวิวสินค้าได้ เป็นต้น

2. จัดหมวดหมู่สินค้าเป็นสัดส่วน ช่วยแยกประเภทสินค้าตามหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบ เพิ่มความสะดวกในการค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น

3. ตรวจสอบสินค้าคงคลังได้สะดวก ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการคลังสินค้าอย่างเป็นระเบียบ เช่น สินค้าคงเหลือ, ปริมาณสินค้านำเข้า และการส่งออกสินค้า เป็นต้น

4. บันทึกข้อมูลลูกค้าครบถ้วน สร้างความสะดวกในการใช้งานทั้งลูกค้าและธุรกิจ ด้วยการแสดงสถานะบัญชีของผู้ใช้งานที่ครบครัน เช่น ประวัติการทำธุรกรรม, รายการสินค้าที่ต้องการ, ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า และตะกร้าสินค้า เป็นต้น

5. บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการคำสั่งซื้อ และการแจ้งสถานะคำสั่งซื้อของลูกค้า รวมถึงสามารถปรับปรุงคุณสมบัติรูปแบบการใช้งานได้ตามต้องการ เช่น ช่องทางติดต่อลูกค้า, การจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้า และบริการอีเมลติดตามผลการสั่งซื้อแบบครบถ้วน เป็นต้น

6. ครอบคลุมด้านการชำระเงิน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการชำระสินค้า ด้วยหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต, PayPal, Authorize.net, Google Checkout, CyberSource, ePay และ eWAY เป็นต้น

7. มีเทคโนโลยีในการค้นหาข้อมูล ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการหาข้อมูลสินค้า รองรับการค้นหาบน Google SiteMap หรือแผนผังเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบภาพรวมของหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดได้ง่ายมากขึ้น

8. รองรับการใช้งานภาษาไทยได้ดี Magento รองรับได้หลากหลายภาษา ช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงมีการรองรับภาษาไทยที่มีความเสถียรมากกว่า Content Management System อื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถจัดการ Interface 2 ภาษาบนหน้าเว็บไซต์และแปลภาษาได้ดี

9. ครบครันด้วยเครื่องมือส่งเสริมการขาย สามารถวางแผนการขายสินค้า หรือส่งเสริมแผนการตลาดให้มีความน่าสนใจ เพื่อกระตุ้นยอดขายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มมากขึ้น เช่น โปรโมชันและโค้ดลดราคา เป็นต้น 

10. วิเคราะห์และรายงานผล ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดด้วย Google Analytics ทำให้สามารถนำผลสรุปมาช่วยพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น


ภาพประกอบ 2 Magento คือ

6 ประโยชน์จากการใช้ Magento

  • สร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย – มี Interface ที่สวยงามและทันสมัย สามารถใช้เครื่องมือจัดการเนื้อหาและเลือกจัดวางตำแหน่งบนเว็บไซต์ได้ตามต้องการ 
  • เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น – ช่วยเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายสินค้าให้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ด้วยการโปรโมตสินค้าให้มีความน่าสนใจและบริการอย่างมืออาชีพ
  • มีระบบหลังบ้านที่เครื่องมือครบครัน – อำนวยความสะดวกด้วยการรวมเครื่องมือสำหรับการจัดการสินค้าแบบครบวงจร เช่น การเลือกซื้อสินค้า, การชำระเงิน, การจัดส่งสินค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
  • เป็น Open Source ที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ – เพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ ด้วยการเขียนโค้ดหรือเพิ่ม Module และ Plug-in ใหม่ ๆ ได้ตามต้องการ
  • รองรับการทำ SEO – ช่วยเพิ่มคุณภาพของเว็บไซต์ ให้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ในระยะยาว และรองรับการติดอันดับค้นหาระดับสูงบน Search Engine Result Page (SERP) หรือระบบการจัดอันดับการแสดงผล Search Engine ใน Google
  • มีความยืดหยุ่นสูง – เหมาะสำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่กำลังเติบโต เพราะสามารถปรับหรือเพิ่มขนาดทรัพยากรได้ตามต้องการ

คุณพร้อมใช้งาน Magento แล้วหรือยัง ?

โปรแกรม Magento เป็น Open Source ยอดนิยมสำหรับจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ E-Commerce ที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันหลากหลายสำหรับการจัดทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพและมีเครื่องมือส่งเสริมการขายสำหรับวางแผนการตลาดที่ครบครัน ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจให้เป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ 

สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ Magento สามารถติดตั้งพร้อมใช้งานได้ฟรีบน OpenLandscape Cloud ที่ https://gate.openlandscape.cloud

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ OpenLandscape ได้ผ่านทางอีเมล technical-support@ols.co.th หรือ Call Center 02-257-7189 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ข้อมูลอ้างอิง

https://business.adobe.com/products/magento/magento-commerce.html

https://en.wikipedia.org/wiki/Magento

https://www.mindphp.com/developer/28-pear-zend-framework/-Zend-Framework.html

https://www.primal.co.th/th/seo/what-is-magento/

https://sherocommerce.com/difference-between-magento-2-enterprise-community-edition/

https://zixzax.net/what-is-magento/

จบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>
*
*