Git คืออะไร ?
GitHub คือ อะไร ? ก่อนทำความรู้จัก GitHub มารู้จัก Git กันก่อน ซึ่งเวลามีโปรเจกต์ หลาย ๆ คนคงพอคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้างกับคำว่า Git หรือเครื่องมือ Version Control ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็น Open Source ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการและง่ายต่อการทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดย Git มีไว้สำหรับจัดเก็บความเปลี่ยนแปลงของไฟล์ในโปรเจกต์ของคุณหรือทีม ไม่ว่าคุณจะทำการเพิ่ม ลบ และเปลี่ยน ระบบจะบันทึกไว้ ทำให้คุณสามารถรู้ประวัติการเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของโปรเจกต์ที่คุณถืออยู่ได้
GitHub คือ อะไร ?
GitHub คือเว็บไซต์ที่ให้บริการ Git (Version Control Repository) รวมถึงเป็นที่เก็บ Source Code ของโปรเจกต์ขนาดใหญ่มากมาย เช่น Kubernetes, .NET, Node.js, Python, PyTorch และ Swift เป็นต้น ซึ่ง GitHub เป็นที่นิยมของนักพัฒนามากมาย เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาซอฟต์แวร์ และช่วยให้ขั้นตอนการทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ GitHub ให้บริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์และบนระบบ Cloud ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ในส่วนของการใช้บริการมีให้ใช้ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้บริการ ซึ่งการให้บริการแบบฟรี จะเป็นการใช้งานแบบเปิดเผย Code ในโปรเจกต์ของคุณทั้งหมด ซึ่งผู้อื่นจะสามารถเข้าถึงได้ แต่หากต้องการใช้บริการแบบส่วนตัวทาง GitHub มี Plan รองรับในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
ประวัติความเป็นมาของ GitHub เริ่มต้นจากอะไร ?
GitHub ก่อตั้งขึ้นมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2008 โดย Tom Preston-Werner, PJ Hyett, Scott Chacon และ Chris Wanstrath ผู้คิดค้น Code Commit ตัวแรก ซึ่งเป็นพื้นที่ในการจัดการข้อมูลและแลกเปลี่ยน Code จนกลายเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลกในปัจจุบัน และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2009 ทางทีมงาน GitHub ได้ประกาศเปิดให้ใช้บริการแบบ Online ในเว็บไซต์ Yahoo! ซึ่งในปีแรกมี Repository หรือคลังเก็บข้อมูลมากถึง 46,000 ไฟล์ และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในปี 2023 บริษัท GitHub มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐและมีนักพัฒนาใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงมีองค์กรที่ใช้บริการมากกว่า 4 ล้านองค์กรและมี Repository รวมกันมากกว่า 330 ล้านไฟล์บนระบบ
Logo ของ GitHub มีที่มาจากอะไร ?
แนวคิด Logo ของ GitHub มาจาก “Octopus Merge” ซึ่งเป็นวิธีการรวมสาขาการพัฒนาตั้งแต่ 3 สาขาขึ้นไป ซึ่งในเริ่มแรก Simon Oxley ผู้ออกแบบ Logo ตั้งชื่อผลงานเดิมว่า “Octopuss” มีที่มาจากการผสมผสานระหว่างปลาหมึกยักษ์และแมวเหมียว เพื่อแสดงถึงความซับซ้อนของ Code ที่สามารถรวมกันและสร้างสิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นมาได้ แต่สุดท้าย GitHub ตัดสินใจเลือกชื่อ “Octocat” แทน เพราะชื่อนี้มีความชัดเจนและสื่อตรงตัวถึงการรวมชื่อของปลาหมึกยักษ์และแมวมากกว่า ซึ่ง Logo นี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของทีมงาน GitHub เป็นอย่างมาก
3 ประโยชน์ที่ได้จากการใช้ GitHub
1. ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำโปรเจกต์ให้ง่ายขึ้น
GitHub ช่วยจัดระเบียบการทำงานภายในทีมให้มีประสิทธิภาพและช่วยให้การเขียน Code ง่ายขึ้น สามารถ Pull Request (PR) ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางสำหรับการสื่อสารภายในทีมที่สามารถตรวจสอบ พัฒนา และเสนอ Code ใหม่ได้ง่าย ๆ บน GitHub.com, GitHub Desktop, GitHub Codespaces, GitHub Mobile และ GitHub CLI
2. ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของ Code ให้มากขึ้น
GitHub มีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยที่รัดกุม โดยสามารถระบุและวิเคราะห์ช่องโหว่ของ Code ที่เครื่องมืออื่น ๆ อาจวิเคราะห์ไม่ได้ รวมถึง GitHub ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัย ปราศจากสแปมและมีการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวสูง ที่ได้รับความไว้วางใจจากนักพัฒนาหลายล้านคน และยังได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ในระดับสากล
3. เป็นศูนย์รวมนักพัฒนาจำนวนมหาศาลจากทั่วโลก
GitHub เป็นศูนย์รวมของโปรเจกต์และนักพัฒนามากมายที่มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และอัปเดตการทำงาน เพื่อให้โปรเจกต์มีประสิทธิภาพดีและสมบูรณ์แบบ ช่วยให้นักพัฒนาที่มีศักยภาพสามารถเข้าร่วมและแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ของชุมชนนักพัฒนาทั่วโลก
คุณพร้อมใช้งาน GitHub แล้วหรือยัง ?
GitHub ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบเวอร์ชันเก่าที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ทุกขั้นตอนและเป็นแหล่งชุมชนรวมการเขียน Code ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ GitHub สามารถติดตั้งพร้อมใช้งานได้ฟรีบน OpenLandscape Cloud ที่ https://gate.openlandscape.cloud
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ OpenLandscape ได้ผ่านทางอีเมล technical-support@ols.co.th หรือ Call Center 02-257-7189 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.geeksforgeeks.org/git-features/